ยังเป็นข้อโต้เถียงยืดเยื้อข้ามปี กรณีหวย 30 ล้าน ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจเกษียณอายุราชการ ที่อ้างสิทธิ์การเป็นเจ้าของสลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เลข 533726 งวดประจำวันที่ 1 พ.ย. 60 เป็นเลขชุด 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท ภายหลังนำสลากลอตเตอรี่ไปขึ้นรางวัล

กระทั่งต่อมา มีการอายัดเงินรางวัล โดย นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังสี ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี ที่อ้างว่าเป็นผู้ซื้อสลากฯ จากแม่ค้า แต่สลากฯ ชุดที่ถูกรางวัลหายไป จนฟ้องร้องบานปลาย กระทั่ง สำนักงานนิติวิทยาศาสตร์ ยืนยันผลตรวจรอยนิ้วมือที่ใบลอตเตอรี่ที่ปรากฏรอยนิ้วมือของ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจเกษียณอายุราชการ รวมไปถึงหลักฐานบ่งชี้ที่ทางกองบัญชาการสอบสวนกลาง ได้สรุปออกมามีแนวโน้มว่าเป็นของอดีตตำรวจอย่างชัดเจน

การแถลงข่าวโดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เห็นพ้องไปตามข้อมูลจาก กองบัญชาการสอบสวนกลาง ระบุ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจเกษียณอายุ มีความน่าจะเป็นด้วยหลักฐานองค์ประกอบที่มากกว่า ผ่านไปได้ไม่นาน พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ได้ออกแถลงข้อมูลเพิ่มเติม โดยสรุประบุมีพยานบุคคลยืนยันว่า สลากกินแบ่งรัฐบาลรางวัลที่ 1 เลข 533726 เป็นของ นายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนเทพมงคลรังสี ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกองเชียร์ ทั้ง 2 ฝ่าย สรุปตำรวจไทยจะชี้นำไปในทิศทางใดกันแน่ ยังเป็นเรื่องต้องรอพิสูจน์กันต่อไป

แต่สำหรับคีย์แมนหลัก ที่ให้ข้อมูล “ค้าน” การแถลงข่าวจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อย่าง พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 จึงกลายเป็นนายตำรวจที่ถูกจับจ้องมากที่สุดในสายตา FC 2 ฝ่าย เขาเป็นใคร มาจากไหน ประวัติรับราชการเส้นทางเป็นอย่างไร เราจะพาไปทำความรู้จัก “รองเป็ด” พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รองผู้บัญชาการตำรวจภูธภาค 7

“รองเป็ด” นักเรียนนายร้อยรุ่น 36 มีเพื่อนนักเรียนร่วมรุ่นคือ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. (บิ๊กแป๊ะ), พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษา (สบ 10) (บิ๊กใหม่), พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.สันติบาล (บิ๊กปั๊ด), พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. (บิ๊กแหมว), พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 (บิ๊กหยม), พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 (บิ๊กบัว), พล.ต.ท.คัชชา ธาตุศาสตร์ รอง ผบช.ศชต. และ พล.ต.ต.นันทชาติ ศุภมงคล ผบก.น.4 (บิ๊กกบ)

พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช หรือ “รองเป็ด” มีชื่อชั้นเป็น 1 ในมือปราบภาค 7 จากตำแหน่ง รองผู้การสืบสวนภูธรภาค 4 ก่อนจะขยับมานั่งเก้าอี้ผู้บังคับการจังหวัดราชบุรี ผู้บังคับการจังหวัดนครปฐม กระทั่งได้รับความไว้วางใจแต่งตั้งขึ้นเป็นรองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ก่อนที่รองเป็ดจะขึ้นเป็น “นายพล” รับหน้าที่หัวหอกชุดปราบยาเสพติด และปราบมือปืนรับจ้างของภาค 7

“หลังจบจากโรงเรียนนายร้อย เริ่มชีวิตราชการด้วยการเป็นพนักงานสอบสวน วนเวียนอยู่ใน จ.ราชบุรี กระทั่งมาเจอ พี่เหลือง-พ.ต.อ.พรเทพ จันทร์เหลือง นรต. รุ่น 25 ตอนนั้นพี่เขาเป็น สว.ส. ส่วนผมเป็น รอง สว. พี่เขาเห็นผมเป็นเด็กหนุ่มๆ ก็บอกว่า ทำงานสอบสวนมันก็สนุกไปอย่าง แต่ตำรวจจริงๆ มันต้องเป็นมือปราบ แกอยากเป็นมั้ยมือปราบ? ผมก็บอกว่าอยาก พี่เขาเลยสอนวิชาต่างๆ ให้ผมทั้งหมด ให้เป็นคนไม่ประมาท ให้เป็นคนละเอียด ให้ความรู้จนผมกระโดดเข้ามาอยู่ในสายนักสืบเต็มตัว ตอนหลังก็มาทำเรื่องยาเสพติดด้วย เอาวิชาที่เราเป็นนักสืบมาทำ”

รองเป็ด ผ่านผลงานการจับกุมคดีดังอย่างโชกโชน เน้นด้านปราบปรามยาเสพติด มือปืนรับจ้าง และการตามจับตัวคนร้ายรายสำคัญระดับประเทศในพื้นที่รับผิดชอบ เคยวิสามัญฆาตกรรมคนร้ายมากว่า 8 ศพ อาทิ “ไอ้หรั่ง บ้านลาด” หรือ ไพริน แก้วสลับศรี มือปืนที่ จ.เพชรบุรี คนร้ายรายสำคัญฆ่าคนตายมาหลายศพ รวมไปถึงคดีล้อมจับคนร้ายยิงตำรวจทางหลวงตาย 2 ศพ พื้นที่ สภ.ต.ไม้รวก รองเป็ด ไล่ล่า ยิงปะทะ จนผู้ต้องหาเสียชีวิต

“แต่คดีที่ดังจริงๆ สมัยก่อน คือ กรณีคนร้ายขึ้นบ้านข่มขืนแล้วฆ่า คนร้ายชื่อ นายสุริยะ กิ่งทรัพย์ ตอนนั้นผมเป็น สว.ส. น่าจะอยู่ประมาณปี พ.ศ. 2537-2538 ตามจับจนเกิดยิงต่อสู้กันขึ้นในเขตพื้นที่เมืองราชบุรี” พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช เคยให้สัมภาษณ์ไว้ในเว็บไซต์ Police News Varieties

**ก็ไม่รู้ว่าคดีหวย 30 ล้าน จะดำเนินไปในทิศทางใดต่อไป แต่เชื่อได้ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกนายที่ได้รับมอบหมายทำคดี มีความตั้งใจ สืบสวนข้อเท็จจริง สางปมเรื่องราวทั้งหมดให้คลี่คลายถูกต้องลงตัว นำไปสู่การมอบเงินรางวัล จำนวน 30 ล้าน ให้เจ้าของตัวจริงต่อไป
From:http://khaoron.com/archives/7428